ชาร้าว หมอนรองกระดูกทับเส้น

 

PB Clinic คลินิกกายภาพบำบัด ทำการรักษาด้วยด้วยศาสตร์ทางกายภาพบำบัดร่วมกับการใช้เครื่องมือนำเข้าที่ทันสมัย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและมีประสิทธิภาพสูงในทำการรักษาอาการปวดและช่วยปรับโครงสร้างร่างกายในส่วนที่มีปัญหาให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาคศาสตร์ โดยทีมนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ด้านระบบโครงสร้างและกล้ามเนื้อร่างกาย

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ?

อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คือ ภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างกระดูกสันหลังทำให้ทรุดตัวและไปกดและเบียดเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทเกิดการอักเสบ หากมีอาการปวดและเริ่มมีอาการปวดหลัง หรือภาวะเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ควรรีบทำการรักษาหรือปรึกษานักกายภายภาพบำบัด เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

พฤติกรรมเสี่ยง หมอนรองกระดูกทับเส้นฯ

  • พบได้มากในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเริ่มมีความเสื่อมของกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมพอออกแรงมาก อาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาทได้ ทำให้เกิดอาการปวด
  • พบได้ในผู้ที่มีกิจกรรม การออกกำลังกายหรือชอบทำกิจกรรมที่มีความโลดโผน
  • พบในกลุ่มคนวัยทำงานที่เคยมีประวัติเป็นออฟฟิศซินโดรม ยืนนาน นั่งหน้าจอคอมนานๆ เป็นต้น
  • พบในผู้ป่วย ข้ออักเสบ เนื้องอกบางประเภท
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป กระดูกสันหลังจะต้องรับภาระอย่างหนักและอาจส่งผลต่อหมอนรองกระดูกได้เช่นกัน
  • การสูบบุหรี่ พบว่าคนที่สูบบุหรี่จะทำให้เลือดไปเลี้ยงที่หมอนรองกระดูกสันหลังน้อยลง ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น

    เช็กอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นฯ ?

    • ปวดร้าว ปวดจี๊ดเหมือนไฟฟ้าช๊อต ลงมาตั้งแต่บริเวณสะโพก ขา น่อง จนถึงเท้า
    • มีอาการชาร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ ส่วนใหญ่อาการปวดจะมากขึ้นตอนที่นั่งนานหรือยืนนาน ๆ
    • มีอาการอ่อนแรงที่ขาร่วมด้วย
    • เมื่อ ไอ จาม เบ่ง มีอาการปวดหลังหรือสะโพก

     

    4 ระยะ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

    • ระยะที่ 1 หมอนรองกระดูกเสื่อม
    • ระยะที่ 2 มีการฉีกขาดบริเวณชั้นนอก ทำให้หมอนรองกระดูกชั้นใน ที่เป็นเจลเคลื่อนออก
    • ระยะที่ 3 หมอนรองกระดูกชั้นใน เคลื่อนออกมาด้านนอก
    • ระยะที่ 4 หมอนรองกระดูกเคลื่อนหลุดแยกออกมา

    หมอนรองกระดูกอักเสบ ?

    เราสามารถสังเกตอาการได้เบื้องต้น คือ เมื่อเรานั่งแล้วไม่สามารถนั่งได้เป็นระยะเวลานาน ๆ เมื่อยืน หรือแอ่นตัวอาการดีขึ้น แต่เมื่อก้มตัวอาการจะแย่ลง โดยจะมีอาการลักษณะนี้เป็นระยะเวลานาน ในกรณีที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง รักษามาหลายวิธีแล้วยังไม่ดีขึ้นอาการอาจเข้าข่ายหมอนรองกระดูกอักเสบ ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือให้นักกายพบำบัดช่วยประเมินอาการและวา

หมอนรองกระดูก ปวดแบบไหนต้องรีบรักษา ?

  • มีอาการปวดหลังเรื้อรังนานเกิน 1 เดือน ทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น
  • ปวดหลังร้าวลงไปถึงขา น่อง หรือเท้า มีอาการชาร่วมด้วย
  • มีอาการขาอ่อนแรง กระดกข้อเท้าไม่ได้
  • มีอาการปวดเฉียบพลันและรุนแรงจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง
  • มีอาการปวดร่วมกับอาการแทรกซ้อน เช่น ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้
  • มีอาการปวดจากการได้รับบาดเจ็บหรือหกล้มจนมีอาการ หมอนรองกระดูกปลิ้น

จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นออฟฟิศซินโดรม ?

  • ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง มักมีอาการปวดเป็นบริเวณกว้าง เช่น คอ บ่า ไหล่ สะบัก หรือแขน
  • ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือการที่ใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน
  • ปวดหลังเรื้อรัง เป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมง นั่งไม่ถูกท่า นั่งหลังค้อม อาจทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ เมื่อย เกร็งอยู่ตลอด รวมถึงงานที่ต้องยืนนานๆ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ใส่ส้นสูง
  • ปวดตึงที่ขา หรือเหน็บชา อาการชาเกิดจากการนั่งนานๆ ทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับและส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ
  • ปวดตา ตาพร่า เนื่องจากใช้สายตาอย่างหนักเป็นเวลานาน
  • มือชา นิ้วล็อค ปวดข้อมือ เพราะการใช้คอมพิวเตอร์จับเมาส์หรือใช้แป้นพิมพ์ในท่าเดิม เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวแล้วไปกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นข้อมือหรือนิ้วมือจนอักเสบขึ้น เกิดพังผืด

อาการชา คืออะไร ?

ปวดต้นคอ ชามือ อ่อนแรงของขา เดินเกร็ง เดินลำบาก เกิดจากปัญหาของการกดทับไขสันหลัง ทำให้ไขสันหลังมีอาการบวม อักเสบ ขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งอาการชาเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย บริเวณที่พบได้บ่อย คือ บริเวณมือและเท้า เช่น มือชา เท้าชา ชาปลายนิ้วมือ โดยลักษณะของอาการชาอาจเป็นได้ทั้งสูญเสียความรู้สึก รู้สึกแบบผิวหนังหนาๆ ซ่าๆ เหมือนเข็มทิ่ม ปวดแสบร้อน เสียวคล้ายไฟช็อต

สาเหตุของอาการชา ?

  • เกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับ (compressive neuropathy)
  • หมอนรองกระดูกคอเคลื่อนทับไขสันหลัง สภาวะนี้พบได้ในกรณีของการเสื่อมหรือการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกกดทับไขสันหลัง
  • เกิดจากระบบเส้นประสาทส่วนปลาย คือ ภาวะการกดทับของเส้นประสาทในแขนขา โดยมักพบในตำแหน่งที่เส้นประสาทอยู่ตื้น และสัมพันธ์กับการนั่งหรือทำท่าเดิมนานๆ ทำท่าทางใดๆ ซ้ำๆ หรือมากเกินไป

อาการชาแบบไหนที่ควรรีบมารักษา ?

นอกจากอาการชาแล้วยังมีอาการอื่นที่พบได้เช่น การรับความรู้สึกสัมผัสที่ผิดปกติ ไม่รู้สึกร้อนหรือเย็น บางครั้งมีอาการเส้นประสาทไวผิดปกติจะรู้สึกเหมือนไฟช็อต เจ็บปวดมากกว่าปกติเมื่อได้รับการกระตุ้น บางรายอาจมีอาการอ่อนแรง มีปัญหาด้านการทรงตัว
 
 
เครื่องช็อคเวฟ (ShockWave Therapy) การรักษาด้วยคลื่นกระแทก เหมาะสำหรับการรักษาผู้ที่มีอาการปวดออฟฟิศซินโดรม อาการอักเสบเรื้อรัง รักษามานานยังไม่หาย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ อาการปวดลดลง

            – Focus ShockWave : คลื่นกระแทก ตรงจุด ที่ลงได้ลึกมากกว่า Radial ShockWave กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่มีปัญหา
            – Radial ShockWave : คลื่นกระแทกที่รูปแบบคลื่นกระจายออกเป็นบริเวณกว้าง และพลังงานจะลดลงเรื่อยๆ สัมพันธ์กับความลึกของเนื้อเยื่อ

 

  • เครื่องเลเซอร์กำลังสูง (High Power Laser Therapy) สำหรับลดอาการอักเสบปวด บวม ของระบบกล้ามเนื้อ ข้อ กระดูกและเส้นเอ็นที่มีการบาดเจ็บ

  • เครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound therapy) เป็นคลื่นความร้อนลึก ช่วยลดปวด ลดการอักเสบและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ลดการยึดตรึงของข้อต่อ รักษาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และข้อต่อ เอ็นอักเสบ รวมทั้งออฟฟิศซินโดรม
  • เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Electrotherapy) กระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดการหดตัว ชะลอการลีบเล็กของกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนและลดบวมจากการหดตัวเป็นจังหวะของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดของกล้ามเนื้อ ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
  • แผ่นประคบร้อน (Hot pack) ช่วยลดอาการปวดของกล้ามเนื้อ, ลดอาการเกร็งตึงของกล้ามเนื้อ, ช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว (Vasodilation) เลือดไหวเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
  • Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) หรือการรักษาด้วยเทคนิคการกระตุ้นประสาทส่วนปลายด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นวิธีการรักษาหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ในการบำบัดอาการออฟฟิศซินโดรมอย่างได้ผล ช่วยลดอาการปวด กระตุ้นได้ถึงระบบกล้ามเนื้อและเส้นประสาท โดยใช้กลไกการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าลงลึกถึงจุดที่มีอาการปวด

ปวดแบบไหน ควรมากายภาพ ?

ปวดจนร้าวไปยังส่วนต่างๆ ปวดจนนอนไม่หลับ ปวดมากจนกระทบกับงานและชีวิตประจำวัน กลุ่มที่มีอาการปวดแบบเรื้อรัง หรือกลุ่มที่ทำการรักษาด้วยวิธีปกติไม่หาย ควรมาการทำกายภาพเพื่อลดความเจ็บปวด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้อาการปวดลดลงและยั่งยืนในระยะยาว

 

ทำไมต้องเลือกรักษาที่พีบีคลินิก ?

พีบีคลินิกกายภาพบำบัด สามารถช่วยคุณจากโรคออฟฟิศซินโดรมได้ โดยเรามีนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่มากประสบการณ์ทางด้านการรักษาออฟฟิศซินโดรม และมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยพร้อมให้บริการ คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าได้รับการรักษาอย่างตรงจุด มอบความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการรักษาให้สำหรับคุณ